เมื่อกล่าวถึงการรบทางทะเลที่พลิกโฉมหน้าการรบในสงครามโลกครั้งที่
2 ในสมรภูมิเอเชีย-แปซิฟิก ย่อมต้องพูดถึงยุทธนาวี Midway ซึ่งถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนของสงครามที่ชัดเจนที่สุดของสงครามระหว่างสัมพันธมิตรกับญี่ปุ่น
เพราะเป็นการพ่ายแพ้ที่สร้างความเสียหายอย่างรุนแรงให้กับกองทัพเรือญี่ปุ่นจนต้องกลายเป็นฝ่ายตั้งรับและล่าถอยอย่างเดียว
ย้อนกลับไปในปี
1942 ยุทธนาวี Midway
เกิดขึ้นจากความจำเป็นของกองทัพญี่ปุ่นที่ต้องการกำจัดกองกำลังทางเรือของสหรัฐฯให้หมดไปจากภาคพื้นแปซิฟิก
เพราะกองทัพเรือสหรัฐฯในวันนั้นคือภัยคุกคามเดียวที่ขวางกั้นญี่ปุ่นกับชัยชนะทางทะเลอย่างเด็ดขาดในภาคพื้นแปซิฟิก
เราจะเห็นได้ว่าญี่ปุ่นให้ความสำคัญในการทำลายกองเรือของสหรัฐฯเป็นอย่างมาก
โดยเฉพาะกองเรือบรรทุกเครื่องบิน นับตั้งแต่วันแรกในการบุก Pearl Harbor ในปี 1941 เลย
ในการบุกอ่าว
Pearl
Harbor นั้นแม้ว่ากองทัพญี่ปุ่นจะได้รับชัยชนะอย่างเด็ดขาด
ด้วยการจมเรือประจัญบานของสหรัฐฯไปถึง 8 ลำ เครื่องบินรบอีก 188 ลำ แต่การโจมตี Pearl
Harbor ครั้งนั้น
ไม่มีเรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐฯสูญเสียแม้แต่ลำเดียว
นี่คือสิ่งที่สร้างความกังวลใจให้กับนายพลยามาโมโต แม่ทัพเรือญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก
เพราะเขาต้องการที่จะกำจัดกองเรือทั้งหมดของสหรัฐฯในแปซิฟิก
โดยเฉพาะเรือบรรทุกเครื่องบิน
แต่การรบระหว่างสัมพันธมิตรกับญี่ปุ่นในช่วงก่อนยุทธนาวี
Midway ถือว่าญี่ปุ่นได้เปรียบทั้งกำลัง และประสบการณ์ของทหาร
เห็นได้จากการชนะในการรบมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นที่ Pearl Harbor มลายู ไทย และฟิลิปปินส์ แต่สิ่งที่ญี่ปุ่นกำลังเสียเปรียบสหรัฐฯขึ้นเรื่อยๆ
ก็คือความสามารถในการสร้างอาวุธของภาคอุตสาหกรรมในสหรัฐฯที่กำลังผลิตอาวุธทุกชนิดเพื่อเอาชนะสงครามโลกครั้งที่
2 อย่างรวดเร็ว และเรื่องสำคัญอีกเรื่องก็คือข่าวกรอง
ที่กองทัพสหรัฐฯสามารถถอดรหัสการสื่อสารของกองทัพญี่ปุ่นได้
โดยที่ฝ่ายญี่ปุ่นไม่รู้ตัวเลย
ก่อนการรบที่
Midway ประมาณ 1 เดือน ได้เกิดการรบครั้งใหญ่ที่บริเวณทะเลคอรัล(Battle
of the Coral Sea) บริเวณออสเตรเลีย นิวกีนี และหมู่เกาะโซโลมอน ซึ่งเป็นสิ่งที่ญี่ปุ่นเองไม่สงสัยเลยว่าทำไมกองทัพสหรัฐฯและออสเตรเลีย
สามารถตั้งแนวรบรับการบุกของญี่ปุ่นได้ราวกับรู้ล่วงหน้า แม้ว่าการรบทีทะเลคอรัลจะสามารถชี้ขาดชัยชนะระหว่างทั้งสองฝ่ายได้เพราะต่างสูญเสียกำลังรบไปเท่าๆกัน
แต่ญี่ปุ่นก็ต้องล่าถอยออกไปจากพื้นที่
อย่างไรก็ตามการรบที่ทะเลคอรัลนั้นก็เป็นเพียงการหยั่งเชิงของกองทัพญี่ปุ่นเท่านั้น
เพราะแผนการจริงๆคือการบุก Midway ซึ่งเป็นฐานที่มั่นหลักของกองทัพสหรัฐฯที่ถือว่าเป็นภัยคุกคามมากที่สุดต่อกองเรือญี่ปุ่นนั่นเอง
แต่สิ่งที่ญี่ปุ่นไม่รู้เลยก็คือสหรัฐฯเองก็รู้ถึงแผนการบุก Midway อยู่แล้ว
การบุก
Midway ครั้งนี้ญี่ปุ่นนำทัพโดยนายพลยามาโมโต มีทัพหน้านำโดยนายพลนากูโม
ซึ่งเป็นแม่ทัพบุก Pearl Harbor มีเรือบรรทุกเครื่องบินถึง 4
ลำคือ เรือคากะ,โชโฮ,ฮิริว และโชริว
พร้อมด้วยเรือประจัญบานอีก 2 ลำ เรือลาดตระเวน 2 ลำ และเรือพิฆาตอีก 12 ลำ
นอกจากนี้ยังมีกองเรือลวงที่ประกอบไปด้วยเรือบรรทุกเครื่องบิน และกองเรือต่างๆอีกด้วย
แต่สิ่งที่นายพลยามาโตยังคงกังวลก็คือแม้จะถึงวันบุก Midway
แล้ว แต่ญี่ปุ่นยังไม่รู้เลยว่ากองเรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐฯอยู่ที่ไหน
ด้านกองทัพสหรัฐฯ
นำทัพโดยนายพลเรือ Chester Nimitz ผู้บัญชาการกองทัพเรือสหรัฐฯ
พล.ร.อ.Frank Jack Fletcher พล.ร.อ. Raymond A.
Spruance อย่างไรก็ตามกองกำลังที่ป้องกัน Midway นั้นมีเพียงเรือบรรทุกเครื่องบิน 1 ลำ กองเรือจำนวนหนึ่ง
เครื่องบินและฐานปืนต่อสู้อากาศยานบนเกาะ Midway เท่านั้น
เพราะเรือบรรทุกเครื่องบินอีก 2 ลำ และกองเรืออีกส่วนอยู่นอก Midway แล้ว ทำให้กำลังในการป้องกัน Midway
จากการบุกระลอกแรกนั้นสหรัฐฯมีกำลังเพียง 1 ต่อ 4 เมื่อเทียบกับญี่ปุ่น
แถมนักบินของกองทัพสหรัฐฯยังด้อยประสบการณ์กว่ามาก
แต่ด้วยข่าวกรองที่เหนือกว่า
และญี่ปุ่นเองไม่คิดว่าสหรัฐฯจะมีเรือบรรทุกเครื่องบินถึง 2 ลำที่กำลังรอจังหวะเข้าโจมตี
ทำให้กองเรือญี่ปุ่นตกเป็นเป้านิ่งในช่วงสับเปลี่ยนกำลังเพื่อเข้าโจมตี Midway ระลอกที่สอง
อีกทั้งการรายงานภาคสนามที่ผิดพลาดของญี่ปุ่นเองว่าสามารถจมเรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐฯได้
1 ลำ ทั้งที่เพียงแค่ได้รับความเสียหายอย่างหนักเท่านั้น
สุดท้ายหายนะจึงเกิดกับกองทัพญี่ปุ่น การรบที่ Midway
นั้นเกิดขึ้นเพียง 4 วัน คือวันที่ 4-7 มิถุนายน 1942 แต่ญี่ปุ่นก็ต้องพ่ายแพ้และเสียหายอย่างหนัก
โดยผลจากยุทธนาวีที่
Midway นั้นกองทัพสหรัฐฯสามารถเอาชนะญี่ปุ่นได้อย่างเด็ดขาด ฝ่ายญี่ปุ่นต้องสูญเสียเรือบรรทุกเครื่องบินทั้ง
4 ลำที่ใช้บุก Midway เครื่องบิน 248 ลำ
พร้อมนักบินฝีมือเยี่ยม ทหารตาย 3,057 คน แม้แต่นายพลนากูโม
ก็ยังบาดเจ็บสาหัสจนต้องออกจากการรบและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ในขณะที่ฝ่ายสหรัฐฯสูญเสียเรือบรรทุกเครื่องบิน
1 ลำ เรือพิฆาต 1 ลำ เครื่องบิน 150 ลำ และทหารเพียง 307 คน
การพ่ายแพ้ที่
Midway ทำให้กองทัพเรือญี่ปุ่นสูญเสียกำลังหลักของกองทัพเรือไป โดยไม่มีความสามารถในการสร้างอาวุธและกำลังทหารมาทดแทน
ต่างจากสหรัฐฯที่ยังมีเรือบรรทุกเครื่องบิน
และอาวุธจำนวนมากที่ถูกผลิตขึ้นทดแทนอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว การบุกยึดออสเตรเลียของญี่ปุ่นเป็นไปไม่ได้อีกต่อไป
การรุกคืบของกองทัพญี่ปุ่นในเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต้องหยุดชะงัก
ถูกผลักดันกลับจากการสูญเสียอำนาจทางทะเล และนำไปสู่ความพ่ายแพ้ของญี่ปุ่นในสงครามโลกครั้งที่
2 ในเวลาต่อมา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น